ฮือฮา…!! ชาวบ้านถึงกับตะลึง!! ยูนนานพบซาก!! ดึกดำบรรพ์อายุกว่า 250 ล้านปี ชาวบ้านเชื่อเป็น “ฟอสซิลมังกร” (ชมภาพ)

ฮือฮา…!! ชาวบ้านถึงกับตะลึง!! ยูนนานพบซาก!! ดึกดำบรรพ์อายุกว่า 250 ล้านปี ชาวบ้านเชื่อเป็น “ฟอสซิลมังกร” (ชมภาพ)
Image 1
วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เวลา 11:46 น.
จำนวนคนอ่านล่าสุด 159389 คน
 สำนักข่าวซินหัวประจำนครคุนหมิงรายงานว่า วันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา มีการเผยแพร่ภาพวัตถุคล้าย “ฟอสซิลมังกร” ที่ขุดพบบริเวณริมแม่น้ำเล็ก ๆ ในหมู่บ้านเหลาฉ่าง ตำบลผิงซ่าง อำเภอเจิ้นสยง นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า มันไม่ใช่ “ฟอสซิลมังกร” อย่างที่เข้าใจกัน แต่เป็นส่วนลำต้นของซากดึกดำบรรพ์ของไม้ที่กลายเป็นหิน ซึ่งเป็นพืชชนิดหนึ่งในไฟลัมไลโคไฟตา (Division Lycophyta) ที่มีชีวิตอยู่ในปลายยุคเพอร์เมียน (Permian) เมื่อ 250 ล้านปีก่อน
1466570799_13466460_1767107540171927_5127258664340324448_n
จากภาพเผยให้เห็นชิ้นส่วนที่มีความยาวประมาณ 130 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลางยาว 17 ซม. มีสีดำและแข็ง ส่วนของ “เกล็ด” มีผิวเรียบและเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ หากดูจากรูปร่างและขนาดของฟอสซิล ชาวบ้านจึงเดาว่ามันเป็นฟอสซิลของงูหลามยักษ์ บางคนถึงกับบอกว่ามันคือ “มังกร” ที่อยู่ในตำนาน
หลังจากที่เผยแพร่ภาพลงอินเตอร์เน็ตในช่วงกลางดึกของวันนั้น ฟอสซิลก็ถูกขโมยและทำลาย สำนักงานวัฒนธรรมอำเภอเจิ้นสยงจึงรีบดำเนินการขุดชิ้นส่วนที่เหลือ ซึ่งหลังจากตรวจสอบแล้ว ก็พบว่าฟอสซิลชิ้นนี้เป็นซากดึกดำบรรพ์ของไม้ที่กลายเป็นหินในช่วงปลายยุคเพอร์เมียนเมื่อ 250 ล้านปีก่อน จึงนับว่ามีความสำคัญต่องานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก
1466570814_13502035_1767107536838594_3714465940414375827_n
ศ.เฝิงจัว อาจารย์พิเศษห้องปฏิบัติการหลักสัตว์และพืชดึกดำบรรพ์ศึกษาระดับปริญญาเอกของ ม.ยูนนาน อธิบายว่า สิ่งที่ชาวบ้านขุดพบนั้นเป็นซากดึกดำบรรพ์ของไม้กลายเป็นหินที่พบได้ทั่วไป เป็นพืชชนิดหนึ่งในไฟลัมไลโคไฟตาที่สูญพันธุ์ไปแล้ว และเคยอยู่ในยุคคาร์บอนิเฟอรัส (Carboniferous) และยุคเพอร์เมียน (permian) จึงนับว่ามีความสำคัญต่อโลกในฐานะซากพืชที่ตกตะกอนและกลายเป็นถ่านหิน
โดยซากดึกดำบรรพ์ไม้กลายเป็นหินนี้มีอายุราว 350 – 250 ล้านปีก่อน อยู่ในยุคคาร์บอนิเฟอรัส (Carboniferous) และยุคเพอร์เมียน (permian) สามารถเจริญเติบโตได้จนมีลักษณะสูงใหญ่ อาจสูงได้เกือบ 50 เมตร เมื่อใบร่วงโรยแล้ว ผิวของลำต้นจึงทิ้งรอยตาของต้นไม้เอาไว้ ทำให้มีลักษณะคล้ายกับเกล็ดปลาและงูที่เรียงต่อกันอย่างเป็นระเบียบ
ที่มา: khaosod.co.th
Share on Google Plus
    Blogger Comment
    Facebook Comment